รูปถ่าย2x2" ขั้นตอนวีซ่าอเมริกา

รูปถ่าย 2x2 นิ้ว ภาพสีเหมือนจริง แต่พื้นหลังสีขาว
บอกช่างที่ร้านว่า ถ่ายรูปวีซ่าอเมริกา 2x2 นิ้ว พื้่นขาว
ช่างที่หลายๆร้าน จะเข้าใจ


รูปถ่ายจะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้
1.ต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
2.ต้องมีพื้นหลังสีขาว
3.ต้องถ่ายหน้าเต็ม
4.จะต้องไม่ถูกปรับแต่งทางดิจิทัล

รายละเอียดมีในนี้ http://bangkok.usembassy.gov/root/pdfs/photo_req_feb09.pdf

ถ้าปกติใส่แว่นตลอด อาจใส่แว่นถ่ายรูปได้ แต่ต้องเป็นแบบกระจกใสไม่สะท้อนแสง ไม่ใช่สีชา

รายละเอียดเรื่องภาพถ่าย คำแนะนำจาก NVC http://travel.state.gov/content/visas/english/general/photos.html

รูปที่ส่งไป NVC ใช้ดินสอ หรือ ปากกาลงน้ำหนักเบาๆ ไม่ให้ กดไปด้านหน้า เขียนหมายเลขเคสนัมเบอร์ที่ด้านหลังรูป
(ขั้นตอนแรกที่ยังไม่มี เคสนัมเบอร์ ให้เขียนชื่อ นามสกุลแทน )
ถ้าจะให้ดี ใส่รูปในซองพลาสติกใส่  อาจใช้ถุงที่สำหรับใส่กับข้าวเล็กๆ ธรรมดา
ปิดเทปใส่กันหล่นร่างจากซอง แนบซองพลาสติกรวมไปกับเอกสารที่ส่งไป NVC เพื่อกันรูปหล่นหาย จากเอกสารที่เราส่งไป

ตรวจสอบสถานะเคสรหว่างรอ NOA2

ระหว่างรอ NOA2   เข้าไปตรวจสอบสถานะขั้นตอน USCIS ที่   https://egov.uscis.gov/cris/Dashboard/CaseStatus.do

หรือ ลงทะเบียนที่นี่   คลิ๊กลิงค์  หากเคสมีการเคลื่อนไหว  เราจะได้รับแจ้งทาง Email โดยไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบสถานะเรื่อยๆที่ uscis.gov


เมื่อตรวจสอบสถานะ อาจเจอข้อความแบบนี้  

ความหมายคือ
ทางUSCIS หลัก อาจส่งเคสเราไปต่อที่ USCIS office ย่อยเพื่อกระจายงาน
ถ้าจนท.ตรวจเอกสารแล้ว จะติดต่อเรามา
ระหว่างนี้ก็รอต่อไปค่ะ



...............................................................................................................................................

ขั้นตอนวีซ่าแต่งงาน อเมริา   CR1 , IR1 , ขั้นตอนแรก USCIS

USCIS , NVC คือ ?

ระยะเวลาขั้นตอนการทำงานของ USCIS และ NVC

USCIS ( US Citizenship and Immigration Services )
เป็นหน่วยงานที่ทำงานในขั้นตอนแรกของการขอวีซ่่าถาวรขอกรีนการ์ดของอเมริกา
เคสจากทุกประเทศส่งไปที่นี่
เมื่อเคสส่งไปถึง จนท.เปิดรับเอกสาร จะออกหมายรับเคส แจ้งติดต่อมาทาง US Citizen เรียกว่าการได้ NOA1 ( Notice of action) ในเอกสารไม่มีคำว่า NOA1 ค่ะ เป็นการเรียกแทนใบ notice ใบที่ 1

หลังจากนั้นเอกสารจะอยู่ในกองที่รอตรวจตามคิวจากเคสทั่วโลก อาจรอ 4 เดือน จนท.ถึงจับเอกสารมาตรวจ หรืออาจนานกว่านั้น 6-9 เดือน ตามจำนวนเคสและการทำงานของจนท.

เนื่องจากการรอคอยที่นาน เคสเยอะ ทางUSCIS หลัก อาจส่งเคสเราไปต่อที่ USCIS office ย่อยเพื่อกระจายงาน
ถ้าจนท.ตรวจเอกสารแล้ว จะติดต่อเรามา

เราอาจได้รับการติดต่อให้ส่งเอกสารเพิ่่ม หรือได้รับApproval notice เลยก็ได้

Approval notice คือได้ NOA2

แล้วหลังจากนั้นUSCISจะส่งเคสเราไปNVC

ขั้นตอนนี้ 4-9 เดือน โดยประมาณ ไม่แน่นอน แล้วแต่จำนวนเคส ภาระการทำงานของจนท.


NVC ( National Visa Center )
เป็นหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับการวีซ่าเข้าอเมริกาถาวรในขั้นตอนที่สอง
จะตรวจสอบเคสละเอียดเพิ่มขึ้นจากขั้นตอนแรก ที่ USCIS

USCIS จะตรวจคุณสมบัติแรก คือตรวจว่าผู้ทำเรื่องยื่นขอวีซ่ามีสิทธิ์ขอวีซ่าให้คนในครอบครัวจริง
เช่น ตรวจว่าคนยื่นขอวีซ่าให้นั้น เป็นUS Citizen หรือเป็นผู้ถือกรีนการ์ดจริง เป็นแม่ของลูกจริง เป็นสามีภรรยากันจริง
โดยตรวจสอบจากเอกสารที่เราส่งไปในขั้นตอนแรก

พอเคสอนุมัติจาก USCIS จะถูกส่งมาให้NVCตรวจสอบต่อ

NVCจะออกหมายเลขเคสของNVC เคสในไทยจะขึ้นต้นด้วยBNK และเข้าขั้นตอนต่างๆของNVC คือจ่ายค่าธรรมเนียมและส่งเอกสารไป NVC

NVCจะตรวจสอบว่าคนที่ทำเรื่องขอวีซ่าให้ จะsupportเรื่องการเงินคนที่ต้องการวีซ่ามาอยู่ถาวรได้หรือไม่
เพื่อไม่ให้เป็นภาระรัฐบาล
ขั้นตอนนี้ ผู้ยื่นขอวีซ่าให้เรา หรือ sponsor ต้องส่งเอกสารชุดสนับสนุนเรื่องรายได้ไปNVC

และ NVCจะตรวจสอบคนที่ต้องการวีซ่า มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาอาศัยเป็นพลเมืองอเมริกาหรือไม่
ตรวจสอบ เอกสารความเป็นตัวคนคนนั้น เอกสารที่แสดงความสัมพันธ์กับคนขอวีซ่าให้ เอกสารที่รับรองว่าไม่เคยทำผิดคดีร้ายแรงคดีอาญา

ขั้นตอนนี้ต้องส่งเอกสารเราไปNVC
เอกสารขั้นตอนนี้ ต้องส่งตัวจริงหรือสำเนารับรองที่ออกจากหน่วยงานที่ออกเอกสารโดยตรง
จะใช้สำเนาที่เราถ่ายเอกสารเองแบบขั้นตอน USCISไม่ได้

เอกสารตัวจริงของเราที่ส่งไปจะได้คืนวันสัมภาษณ์

ขั้นตอนนี้ ประมาณ 2-4 เดือน แล้วแต่การทำงานของNVC และการส่งเอกสารของเรา
ส่งเร็ว ส่งถูกต้อง เคสก็ไปขั้นตอนต่อไปเร็ว
หากเราส่งช้า และยังต้องส่งเอกสารเพิ่มอีก หาเอกสารมาส่งเพิ่มไม่ได้สักที เคสก็ช้าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเราจะมีเอกสารส่งไปให้ครบตาม NVC ต้องการ

 

 

..................................................................................

ขั้นตอน วีซ่าแต่งงาน  CR1 , IR1 

USCIS , NVC คือหน่วยงานอะไร 

การนับระยะเวลาสมัครอเมริกันซิติเซ่น

คุณสมบัติที่จะสมัครอเมริกันซิติเซ่น กรณียื่นสมัครโดยใช้คุณสมบัติจากการแต่งงานกับ US Citizen
ข้อแม้เรื่อง ระยะเวลา

ครอบครอง Green Card มา3 ปี
แต่งงานกับ US Citizen คนเดิมตลอดระยะเวลา 3ปีที่นับ

นับวันเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาตามวันเวลาที่อยู่จริง อย่างน้อย 18 เดือน ใน 3 ปี จากวันที่สมัครย้อนหลังไป
และออกนอกอเมริกาแต่ละครั้งไม่เกิน 1 ปี ถ้าออกเกิน 1 ปี กลับมาต้องมาเริ่ม นับใหม่ แม้ว่าจะขอ Re entry permit ไว้

( ยอดที่ยกมา อาจยกมาได้มากสุด 1 ปี ที่เหลือตัดทิ้ง เริ่มนับเพิ่มอีก 2 ปี หลังจากกลับมา )

กรณีออกนานเกิน 6 เดือน ต่อครั้ง ต่อปี ก็ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงความผูกพันธ์กับอเมริกามากกว่าเคสปกติอื่นๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้การเดินทางออกนอกอเมริกาไม่มีผลต่อการสมัครซิติเซ่น จนท.ไม่ต้องพิจารณาเคสเรามากกว่าปกติ 

ในแต่ละปี ไม่ควรออกนอกอเมริกา เกิน 6 เดือน

ถ้าไม่อยากให้เป็นประเด็นถูกตรวจสอบเอกสารเยอะ ไม่ควรออกนอกอเมริกา เกิน 6 เดือนต่อปี เพราะ จนท. จะพิจารณาตามนี้
1. Absence of More than Six Months (but Less than One Year) จนท. พิจารณา เข้มหน่อย
2. Absence of One Year or More มาเริ่มนับระยะเวลาใหม่ หลังจากหลังจากกลับเข้ามา ยอดก่อนนั้นยกมาได้ 1ปี ( กลับมาอยู่ได้ 2ปี 1 วัน อาจส่งใบสมัครได้ ถ้ายอดก่อนนั้นมียกมาได้มากสุด 1 ปี )

http://www.uscis.gov/policymanual/HTML/PolicyManual-Volume12-PartD-Chapter3.html

คุณสมบัติอื่นๆ
มีถิ่นฐานอาศัยอยู่ในพื้นที่รัฐที่จะยื่นเอกสารเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน (และไม่เปลี่ยแปลงจนกว่าขั้นตอนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย )
พูด ฟัง อ่าน เขียนภาษาอังกฤษได้ มีความรู้และเข้าใจ ประวัติศาสตร์และการเมืองของอเมริกา

*กรณีไม่ได้ยื่นสมัครจากการแต่งงานกับ US Citizen จำนวนปีครอบครอง Green Card 5 ปี

การจ่ายเงินค่าธรรมเนียม I-130

การจ่ายเงินค่าธรรมเนียม ขั้นตอนแรก I-130

ดูค่าธรรมเนียมล่าสุด   http://www.uscis.gov/fees


คลิ๊กดูค่าธรรมเนียม (ดูที่แบบฟอร์ม I-130)

ณ ปัจจุบัน  3 Feb 2014 ค่าธรรมเนียม เอกสารชุดแรก I-130   

I- 130 Petition for Alien Relative

$420

Use the following guidance when paying filing, biometrics, or other fees to USCIS:

• Bank drafts, cashier's checks, certified checks, personal checks , and money orders must be drawn on U.S. financial institutions and payable in U.S. funds.

DS-260: Online Immigrant Visa Application Application for a U.S. Passport (DS-11) Arrival/Departure Forms (I-94 and I-94W) Department of State (DS) Visa Application Forms U.S. Customs and Border Protection: Forms

Paying Immigration Fees Use the following guidance when paying filing, biometrics, or other fees to USCIS: Bank drafts, cashier's checks, certified checks, personal checks (See Check Instructions below), and money orders must be drawn on U.S. financial institutions and payable in U.S. funds. If you live in the United States or its territories, make the check or money order payable to U.S. Department of Homeland Security (not "USDHS" or "DHS"). If you live outside the United States or its territories, and are filing your application or petition where you live, contact the nearest U.S. Embassy or consulate for instructions on the method of payment. USCIS จะรับ  บัตรเครดิตเฉพาะกรณีที่ ยื่นเอกสารและเสียค่าธรรมเนียมที่ หน่วยงานโดยตรง เช่น เคสที่ยื่นเอกสารที่สถานทูตที่ไทย ยื่นชำระค่าธรรมเนียมที่ สถานทูตโดยตรง   ไม่ใช่ กรณี อยู่อเมริกาส่งเอกสารไปUSCISทางไปรษณีย์  แบบนี้ไม่สามารถชำระด้วยบัตรเครดิต USCIS Check Instructions Customers that require payment for the services they are requesting are advised to follow the instructions below to ensure that their application will be filed correctly. If you are paying your fees by check, please be aware of the following: Electronic Deposit of Checks – If you are paying your fees by check to the cashier, we will convert your check into an electronic fund transfer.  When you hand your signed check to the cashier, we will scan your check and retain it.  We will then use the account information from your check to make an electronic fund transfer from your checking account for the amount of the check.  Insufficient Funds – Please note that the electronic fund transfer from your account can occur faster than normal processing of a paper check.  If we cannot complete the electronic fund transfer because your account has insufficient funds, we will try to make the transfer up to two more times.  If your account still lacks sufficient funds, you will be billed the original check amount and a one-time administrative fee by USCIS. Authorization – By presenting your check to the cashier, you authorize USCIS to convert your check into an electronic fund transfer.  If the transfer cannot occur for technical reasons, you authorize us to process the copy of your original check through normal paper check procedures. Please Note  การเขียนเช็ค กรณีหากชำระค่าธรรมเนียมเป็นเช็ค Personal checks must be pre-printed with the name of the bank and the account holder. Also, the account holder’s address and phone number must be pre-printed, typed or written in ink on the check. All checks must be typed or written in ink. Write the date you are filling out the check including:  day, month and year. On the "Pay to the Order of" line write:  "U.S. Department of Homeland Security." Write in numbers the exact dollar amount of the fee for the service you are requesting.  In the example, the amount is "$595.00." Spell out the exact dollar amount of the fee for the service you are requesting.  The "cents" portion of the amount should be written as a fraction over 100.  In this example, the amount is "Five hundred ninety-five and 00/100." Write a brief description of the purpose of your payment.  In this example, it is "I-130 application fee." Sign the check using your legal signature.  คลิ๊กอ่านข้อมูลอ้างอิงที่มาของข้อความ จาก USCIS

Checklist I-130

Checklist I-130 เอกสารขั้นตอนแรก วีซ่า CR1/IR1

สรุป เอกสารวีซ่า CR1 , IR1    ขั้นตอนแรก  ขั้นตอนUSCIS 

ข้อมูลมาจากใน คำแนะนำ I-130
หน้าสุดท้าย ล่างสุด   คลิ๊กเข้าไปดู 

ก่อนส่งเอกสารขั้นตอนแรก ตรวจสอบตามนี้

ที่อยู่ในการส่งเอกสาร CR1 ขั้นตอนแรก ( I-130 )

ส่งเอกสารไป  USCIS ทาง ไปรษณีย์เท่านั้น  (ไม่รับเอกสารแบบ ถือเข้าไปส่งด้วยตนเอง )

เอกสารที่ส่งไป USCIS ควรมีการลงทะเบียน Track เอกสาร  เพื่อตรวจสอบเอกสารได้ 

ที่อยู่ในการส่งเอกสาร ขั้นตอนแรก ไป USCIS ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่กรอกแบบฟอร์ม I-130 อยู่ที่ไหน  คลิ๊กลิงค์ที่อยู่

แบ่งเป็นสองกลุ่มที่อยู่  

เอกสารที่ส่งไป USCIS ควรมีการลงทะเบียน Track เอกสาร เพื่อตรวจสอบเอกสารได้

รวมลิงค์ download เอกสารวีซ่าแต่งงาน

รวมลิงค์ download เอกสารวีซ่าแต่งงาน CR1/IR1


แบบฟอร์ม ขั้นตอน USCIS

• I-130  http://www.uscis.gov/i-130  เอกสารทางฝั่งอเมริกันซิติเซ่นกรอก
• I-130 Form   http://www.uscis.gov/i-130.pdf
• I-130 Instructions  http://www.uscis.gov/i-130instr.pdf
• G-325A http://www.uscis.gov/g-325a    คู่สมรส กรอกข้อมูลตัวเอง คนละใบ 
• G-1145  หน้า web หลักเอกสารนี้  http://www.uscis.gov/g-1145   แบบฟอร์ม ขอสมัครรับแจ้งข้อมูลทาง Electronic
• G-1145 ตัวเอกสารแบบฟอร์ม คลิ๊ก ดูแบบฟอร์ม  ( เอามาใส่ให้สองลิงค์ เผื่ออันใดอันหนึ่งเข้าไม่ได้ค่ะ )

แบบฟอร์ม ขั้นตอน NVC

• I-864  http://www.uscis.gov/i-864
• I-864EZ http://www.uscis.gov/i-864ez
• I-864A http://www.uscis.gov/i-864a
• I-864P http://www.uscis.gov/i-864p   ตรวจสอบเกณฑ์รายได้

เตรียมเอกสารสมัคร US Citizen : N-400

เตรียมเอกสารสมัคร US Citizen  : N-400

• คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมัครได้ http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.eb1d4c2a3e5b9ac89243c6a7543f6d1a/?vgnextoid=86bd6811264a3210VgnVCM100000b92ca60aRCRD&vgnextchannel=86bd6811264a3210VgnVCM100000b92ca60aRCRD

 

• กรณียื่นสมัครโดยใช้คุณสมบัติจากการแต่งงานกับ US Citizen

1. ครอบครอง Green Card มา3 ปี
2. แต่งงานกับ US Citizen คนเดิมตลอดระยะเวลา 3ปีที่นับ
3. นับวันเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาตามวันเวลาที่อยู่จริง อย่างน้อย 18 เดือน ใน 3 ปีติดต่อกัน จากวันที่สมัครย้อนหลังไป
4. มีถิ่นฐานอาศัยอยู่ในพื้นที่รัฐที่จะยื่นเอกสารเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน (และไม่เปลี่ยแปลงจนกว่าขั้นตอนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย )
5. พูด ฟัง อ่าน เขียนภาษาอังกฤษได้ มีความรู้และเข้าใจ ประวัติศาสตร์และการเมืองของอเมริกา

*กรณีไม่ได้ยื่นสมัครจากการแต่งงานกับ US Citizen จำนวนปีครอบครอง Green Card 5 ปี

• ลิงค์ Document Checklist for Form N-400, Application for Naturalization 

 http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=6f547db185e43110VgnVCM1000004718190aRCRD&vgnextchannel=11616c854523d010VgnVCM10000048f3d6a1RCRD

• เริ่มส่งได้เมื่อไหร่

  ลิงค์อ้างอิง
 http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=e6051c613880f210VgnVCM100000082ca60aRCRD&vgnextchannel=fe529c7755cb9010VgnVCM10000045f3d6a1RCRD

•  เริ่มส่งได้ 90 วันก่อน วันที่คุณสมบัติต่างๆ ครบตามข้อกำหนด  
•  โดยทั่วไปก็คือ 90 วัน ก่อนครอบครอง Green Gard ครบ 3 ปี

• การคำนวนวันส่งเอกสาร http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=e6051c613880f210VgnVCM100000082ca60aRCRD&vgnextchannel=fe529c7755cb9010VgnVCM10000045f3d6a1RCRD

• How do I apply for a US.Citizen   http://www.uscis.gov/USCIS/Resources/B3en.pdf

ประสบการณ์ จดทะเบียนสมรสกับชาวอเมริกัน เตรียมงานแต่ง เตรียมเอกสารวีซ่าถาวรคู่สมรส

ประสบการณ์ จดทะเบียนและแต่งงาน 

เล่าเป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆ ที่แฟนมีเวลาในเมืองไทยน้อยเหมือนอาจเอาไปใช้เป็นแนวทางในการจัดเตรียมดำเนินการ

เริ่มจาก เราเข้าไปนัด Onlineให้คุณแฟน  เนื่องจากคุณแฟนไม่สะดวก
Download แบบฟอร์มออกมาไว้เลย รอให้คุณแฟนกรอกข้อมูล
คุณแฟนมาเองไทยได้ 2อาทิตย์

พอคุณแฟนมาถึงเมืองไทย เพื่อไม่ให้เสียเวลาย้อนไปย้อนมาต่างจังหวัดกับกรุงเทพ
วันรุ่งขึ้นยังไม่เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด   จัดการเรื่องเอกสารจดทะเบียนก่อน

พาคุณแฟนไป US Embassy BKK ขอใบรับรองโสด แต่เช้า บอกว่ามาติดต่อแผนก Citizen
 (เริ่มเปิด7.00น. เราเข้าไปถึงมีคนยื่นอยู่ก่อนบ้างแล้ว   ดำเนินการเสร็จเวลา 8.00น.)
ไปถึงกดบัตรคิว
รอเจ้าหน้าที่เรียก ยื่นแบบคำร้องที่เตรียมไป
จ่ายค่าธรรมเนียม
รอรับใบโสด

ห้องที่ไปติดต่อจะติดกับห้องที่สัมภาษณ์วีซ่า ไม่มีประตูปิด มองเข้าไปเห็นบรรยากาศได้

หลังจากนั้นนำใบรับรองโสดไปแปลเป็นไทย รับรองจากระทรวงต่างประเทศ  (ไปแปลแถวกระทรวงต่างประเทศอาจถูกกว่าแปลแถวสถานทูต)
เราใช้บริการแท๊กซี่ขึ้นทางด่วนไป กระทรวงต่างประเทศ แจ้งวัฒนะ   รีบไปให้ถึงเร็วที่สุด  เพราะกลัวไม่เสร็จภายใน 1 วัน
ไปถึงเห็นยามก่อน ก็เลยถามว่าจะแปลเอกสารได้ที่ไหน
ยามกวักมือเรียกให้  ที่กงสุลจะมีคนอยู่ด้านหน้าเดินไปมา ถามว่าต้องการแปลเอกสารหรือไม่ มาให้เห็นเรื่อยๆ  ในตัวกระทรวงต่างประเทศ 
แต่ตอนนั้นเราเข้าด้านข้างเลยไม่เจอ
ใบละ200  บาท  (ทำปลายปี 2008) ระหว่างรอไปนั่งรอในร้านอาหารในตัวอาคาร 
ปี2014 ได้ข้อมูลมาว่าใบละ 300  บาท
เสร็จแล้วไปรับรองแปลที่ชั้น 2 ครึ่ง ( ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ขี้นบันไดทางซ้ายมืออีกครั้งไป ขึ้นไปชั้นลอยฝั่งซ้ายมือ )
เขียนคำร้อง พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้ยื่นคำร้อง จ่ายค่าธรรมเนียม
นั่งรอ
ได้เอกสารที่รับรองแล้ว ไปจดทะเบียนได้
หลายๆคู่อาจเลือกจดทะเบียนที่เขตหลักสี่ เนื่องจากอยู่ใกล้ จนท.ให้บริการบ่อย ให้บริการคล่อง
เสร็จเร็วกว่าไปจดทะเบียนในเขต หรืออำเภอ ที่จนท.ไม่ค่อยได้ให้บริการจดทะเบียนกับต่างชาติ
ที่นี่ไม่ต้องเตรียมพยานไปก็ได้  จนท. ช่วยเป็นพยานให้ได้

หลังจากจดทะเบียน กลับมากระทรวงต่างประเทศอีกรอบ เอาใบสำคัญสมรสมาจ้างแปลอีก
(ยังไม่ต้องมาแปลวันนั้นก็ได้ แปลเองได้ )
แปลใบสำคัญสมรสเป็นอังกฤษและรับรองจากกระทรวงต่างประเทศ  
(เอกสารขอวีซ่าถาวรอเมริกาที่ส่งในขั้นตอนแรก ไม่จำเป็นต้องรับรองจากกระทรวงต่างประเทศแต่ต้องมีผู้แปลรับรองการแปล  )

ฝากคนรับแปล ยื่นรับรองเอกสารให้ เพราะไม่ทันแล้ว
จ่ายค่าส่งEMSไว้ให้ เท่ากับให้จนท.กงสุลส่งให้  เค้าจัดการให้ต่อ
(แต่จริงๆแล้ว แค่ได้ใบจดทะเบียนก็กลับบ้านได้เลย   เอาเอกสารไปแปลเองรับรองเองได้ มีแบบฟอร์มให้คัดลอกตามเยอะแยะ ไม่ต้องเสียตังค์ ไม่เสียเวลาด้วย  แล้วส่งมารับรองทางไปรษณีย์ก็ได้ หากต้องการรับรองจากกระทรวงต่างประเทศ   )
สรุป แต่งงานจดทะเบียนเรียบร้อยในหนึ่งวัน

วันรุ่งขึ้นเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด

วันรุ่งขึ้นไป ถ่ายรูป สตูดิโอ

วันรุ่งขึ้นไป รับรูป 

วันรุ่งขึ้นงานแต่งงานเล็กๆที่บ้าน แต่มีทุกขั้นตอนตามขนบธรรมเนียมประเพณี   มีรูปสตูดิโอด้วย ทั้งๆที่คุณแฟนมาแค่ไม่กี่วัน
( เรื่องเล่าประสบการณ์ ณ จากนี้ไป คุณแฟน ในที่นี่คือ คุณสามีค่ะ )

เราใช้เวลา 5 วันนับจากวันที่คุณแฟนมาถึงไทย จัดการธุระเกี่ยวกับเอกสาร และจัดงานแต่งงานเรียบร้อย

เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ที่มีเวลาน้อยๆเหมือนเรา


ที่จังหวัดที่เราอยู่ไม่มีสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว แต่ช่วงนั้นมีโครงการ ทำหนังสือเดินทางสัญจร มาที่จังหวัดพอดี 
ไปขอทำใหม่  ค่าธรรมเนียม 1000บาท +ค่าส่งEMS พาสปอร์ตกลับมาหาเรา
ต้องใช้สำเนาพาสปอร์ตคุณแฟนไปยืนยันนามสกุลด้วย  แต่เราไม่ได้เตรียมไป
จนท.ให้โทรไปคุยให้คุณแฟนยืนยัน แต่มันเป้นเวลานอนของทางอเมริกาน่ะ
ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองว่าจำได้ ถูกต้องแน่
1 สัปดาห์ได้รับเล่มใหม่ ส่งมาทางไปรษณีย์

เปลี่ยนบัตรประชาชน และแก้ไขทะเบียนบ้าน ได้ใบเปลี่ยนนามสกุลมาด้วย ที่มีขอบสีเขียวๆ สวยๆ
แต่ใบนี้ไม่ต้องใช้ในขั้นตอนส่งเอกสารวีซ่าไปอเมริกา

ใบทะเบียนสมรสที่มีบันทึกด้านหลังยาวๆว่า เราจะใช้นามสกุลอะไร และทะเบียนบ้าน 
เอกสาร 2 อย่างนี้เราก็จ้างแปลเผื่อไว้ แต่ไม่ได้ส่งเลย   เพราะไม่มีในรายการที่ให้ส่ง

หลังจากเมื่อเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เริ่มขั้นตอนขอวีซ่า CR1ได้ค่ะ

หมายเหตุ

การแปลเอกสาร ถ้าแปลเอง ไม่ต้องเดินทางเข้าไปรับรองเอกสารที่กระทรวงต่างประเทศด้วยตัวเอง  ส่งพร้อมคำร้องไปทางไปรษณีย์ได้ 
เราใช้บริการมาแล้ว 2 ครั้ง ใช้เวลา สัปดาห์กว่า ก็ได้รับคืนแล้ว 
(ส่งทาง EMS เอกสารไปถึงจนท.ก็จัดการให้ และ ส่งกลับทางEMS) เร็วมากค่ะ

การับรองเอกสารทางไปรษณีย์ http://www.consular.go.th/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=97

แต่ไม่ต้องส่งไปรับรองเลยก็ได้    ประหยัดตังค์ ประหยัดเวลา เพื่อนๆรับรองเองมาหลายคนแล้ว ไม่มีปัญหา
ไม่มีในระเบียบคำแนะนำของ I-130ด้วย ว่าจำเป็นต้องรับรองแปลจากกระทรวงต่างประเทศ ขอแค่ผู้แปลรับรองแปล

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวมีอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ หลายจังหวัด  สามารถไปทำใกล้บ้านได้ http://www.consular.go.th/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=47
รายละเอียดวิธีการ ค่าธรรมเนียม การรับหนังสือเดินทาง  เตรียมบัตรประชาชน ชื่อนามสกุลปัจจุบันไปยื่นแค่อย่างเดียว  http://www.consular.go.th/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=63

การแปลเอกสารด้วยตัวเอง ตัวอย่างแบบฟอร์มการแปล จากกระทรวงต่างประเทศhttp://www.consular.go.th/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=98

ถ้าไม่อยากทำให้เสร็จแบบรีบๆในหนึ่งวันแบบเรา  และมีเวลามากพอสมควร
หลังจากได้ใบโสด(ของฝ่าย US Citizen )
ก็มาแปลเอกสารเอง (แปลใบโสด ของ US Citizen ) 
ส่งไปรับรองกระทรวงต่างประเทศทางไปรษณีย์  (ในกรณีที่ไม่รีบ) 
บางคนเตรียมแปลเอง  ไปยื่นรับรองเอง หากต้องแก้ไขเอกสารแปลจะได้แก้เลย
หลังจากได้เอกสารกลับมา ไปจดทะเบียนใกล้บ้าน พาพยานไปด้วย ต้องมีล่ามด้วย   พยาน1 ล่าม1 ลงชื่อเป็นพยานให้เรา 2 คน
(ในบางแห่งที่จนท.ให้บริการบ่อย ๆ  อาจไม่ต้องเตรียมไป )
ในการจดทะเบียน จนท.ต้องมีการซักประวัติ ผู้จดทะเบียน( US citizen) นิดหน่อย  เหมือนสอบปากคำก็เลยต้องมีล่าม
เพื่อนบางคนก็ขอเป็นล่ามเอง
แปลเอกสารอีกรอบเอง(ใบสำคัญสมรส ) แค่ใบสำคัญสมรสลายดอกไม้นะคะ จะได้ไม่เสียเวลาแปลหลายใบ  ใบทะเบียนสมรสไม่ใช้ค่ะ
ส่งไปรับรองทางไปรษณีย์อีกครั้ง (หรือแค่รับรองเองก็ได้)
ได้เอกสารครบพร้อมยื่นวีซ่าเหมือนกันค่ะ

ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสในไทย

ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสในประเทศไทย  ( พลเมืองอเมริกันจดทะเบียนสมรสกับไทย )

1. กรุณากรอกข้อมูลในหนังสือสาบานตนให้สมบูรณ์ที่สถานทูตอเมริกา ซึ่งสามารถรับแบบฟอร์มได้ที่สถานทูต หรือดาวน์โหลดได้จากที่นี่ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายของการแต่งงานในประเทศไทย หนังสือสาบานตนจะต้องกรอกให้สมบูรณ์และรับรองลายมือชื่อ (Notarized) โดยสถานทูต ค่าธรรมเนียมในการรับรองเอกสารจำนวน 50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หากท่านต้องการทำการนัดหมาย กรุณาคลิกที่นี่
2. แปลหนังสือสาบานตนที่ผ่านการรับรองลายมือชื่อจากสถานทูตให้เป็นภาษาไทย
3. นำหนังสือสาบานตนและคำแปลไปรับรองเอกสารที่
   
   แผนกรับรองเอกสาร
   กองสัญชาติและนิติกรณ์
   กระทรวงการต่างประเทศ
   ชั้น 3 123 อาคารกรมการกงสุล
   ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง
   เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
   โทรศัพท์ 0-2575-1057-8
   โทรสาร 0-2575-1054                                                                                                                                  
4. นำหนังสือสาบานตนและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอ เอกสารที่ทางอำเภอต้องการได้แก่

• หนังสือเดินทางประเทศสหรัฐอเมริกา
• เอกสารรับรองสัญชาติบุคคลสำหรับสัญชาติอื่น เช่น บัตรประชาชนไทย
• กรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอายุน้อยกว่ายี่สิบปี ต้องมีหนังสือยินยอม (พร้อมทั้งคำแปลภาษาไทย) จากผู้ปกครอง
• กรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน จะต้องยื่นหลักฐานที่แสดงว่าการสมรสก่อนหน้านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว เช่น ใบหย่า หรือมรณบัตร (พร้อมทั้งคำแปลภาษาไทย)

ข้อมูลจาก  สถานทูตอเมริกา   http://thai.bangkok.usembassy.gov

CR-1(Conditional Resident) green card แบบมีเงื่อนไข ?

CR1 : Conditional Resident คือการเป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาอย่างมีเงื่อนไข

เงื่อนไขคืออะไร ?

หลังจากได้วีซ่า  ในวันที่เราเราเดินทางเข้ามาถึงอเมริกาเราแต่งงานจดทะเบียนสมรสมาน้อยกว่า 2 ปี
เราจะได้เป็นพลเมืองแบบมีเงื่อนไข

เงื่อนไขนั้นคือ  ภายในระยะเวลา 90 วัน ก่อน grren card 2  ปี จะหมดอายุ เราจะต้องยื่นเอกสารเพื่อขอถอดถอนเงื่อนไขนี้
และจะได้ green card 10 ปี มาใช้แทน green card 2  ปี ที่หมดอายุ

การขอถอดถอนเงื่อนไขนี่ต้องยื่นเอกสารสนับสนุนว่าภายในระยะเวลาประมาณ ปี ที่ครอบครอง มา เราใช้ชีวิตคู่กับคู่สมรสเราจริง

หากมีปัญหาต้องเลิกลากกับคู่สมรส ก่อน2 ปี   สามารถยื่นเรื่องด้วยตนเองได้ หากมีเอกสารสนับสนุนว่าการแต่งงานนั้นสุจริตจริงไม่ใช่แต่งงานเพื่อต้องการgreen card เท่านั้น

จนท.จะพิจารณาให้ green card 10  ปี หรือไม่ เป็นรายๆไป

ข้อมูลจาก  http://travel.state.gov คลิ๊กอ่าน

ความแตกต่าง CR1 / IR1

CR-1(Conditional Resident)
เป็นวีซ่าถาวร ที่ พลเมืองของสหรัฐอเมริกา ( US citizen ) ยื่นขอวีซ่าให้ คู่สมรส
โดยมีระยะการแต่งงานมาน้อยกว่า 2 ปี ในวันที่ยื่นเอกสาร เมื่อมาถึงอเมริกาจะได้ green card 2 ปี

ความหมายตรงคำ Conditional Resident คือ เป็นพลเมืองถาวรแบบมีเงื่อนไข เงื่อนไขที่ว่าคือ กรีนการ์ดที่ได้มีอายุแค่ 2 ปี
ภายใน90 วัน ก่อนกรีนการ์ด 2 ปี หมดอายุ เราต้องยื่นเอกสารขอถอดถอนเงื่อนไขนี้ เพื่อขอกรีนการ์ด 10 ปี

IR1 ( Immediate Relative )
เป็นวีซ่าถาวร ที่ พลเมืองของสหรัฐอเมริกา ( US citizen ) ยื่นขอวีซ่าให้ คู่สมรส
ต่างกับ CR1 ตรงที่ ถ้าแต่งงานมาเป็นระยะเวลา 2 ปี ขึ้นไป แล้วยื่นขอวีซ่าถาวรคู่สมรส
เมื่อเข้ามาอเมริกา จะได้กรีนการ์ด 10 ปี


เนื่องจากระยะเวลาขั้นตอนวีซ่าค่อนข้างยาวนาน ตอนยื่นเอกสารเริ่มต้น อาจถูกระบุว่าทำ  CR1
เมื่อมาถึงอเมริกา อาจได้ green card 10 ปี เลยก็ได้  หากวันที่เดินทางเข้ามาถึงอเมริกาครบรอบสองปีของการแต่งงานแล้ว

CR1 / IR1 ?

ความแตกต่าง CR1 และ IR1

CR1 มาถึงอเมริกาได้รับ green card 2 ปี
IR1 มาถึงอเมริกาได้รับ green card 10 ปี
-------------------------------------------------------------------------

CR1 หรือ  IR1 ดี  

CR1 หลังจากมาอยู่อเมริกาใกล้ครบ 2 ปี ก่อน green card จะหมดอายุต้องยื่นเอกสารเพื่อให้อยู่ต่อได้ ก็คือการยื่นขอ green card 10 ปี
( นี่คือเงื่อนไขที่พูดถึงในหัวข้อที่แล้ว  ขั้นตอนนี้เรียก Remove the Conditions of Residence คือขอถอดถอนการอยู่แบบมีเงื่อนไขด้วย green card 2ปี เป็น 10 ปี ) มีค่าธรรมเนียม ปัจจุบัน  $ 590   ( Jan 19,2014)

แต่ IR1 ได้ green card 10ปี  หลังจากมาอยู่อเมริกาจะอยู่ไปเรื่อยๆ ได้จน10 ปี ค่อยขอ green card ใบใหม่ ไม่ต้องมาเสีย $590 และเตรียมเอกสารในปีที่ 2 เหมือน CR1

หากมาอยู่อเมริกาใช้ชีวิตร่วมกับสามีแล้ว มีปัญหาชีวิตคู่ในช่วงที่มาอยู่ใหม่ๆ ปรับตัวไม่ได้ หรือปัญหาอะไรก็ตาม แล้วสุดท้ายลงเอยด้วยการหย่าร้างในก่อน 2ปีแรก คนที่อยู่ด้วย green card 10ปี ถ้าอยากอยู่อเมริกาต่อจะสบายกว่าคนที่มีgreen card 2ปี ตรงที่ก่อนครบ2ปี ไม่ต้องคิดเรื่องเอกสารที่จะมาขอgreen card10ปี เพราะในการยื่น ต้องมีเอกสารสนับสนุนว่าเราแต่งงานด้วยความรักจริง และต่อมามีปัญหาอยู่ด้วยกันต่อไม่ได้จริงๆ
คนที่อยู่ด้วยgreen card 2ปี หากจะขอgreen card 10 ปี ด้วยตนเองเพื่ออยู่อเมริกาต่อไปได้เรื่อยๆ ก็ต้องจัดการเรื่องจัดหาเอกสารพวกนี้

----------------------------------------------------------------------------

CR1/IR1 ใช้ชีวิตที่อเมริกาด้วยคำว่า อาศัยในฐานะพลเมืองที่มี green card เหมือนกัน สิทธิ์ต่างๆ เท่าเทียมกัน

--------------------------------------------------------------------------

หลังผ่านการอยู่ในอเมริกา ปีที่ 3 CR1 จะมี green card 10 ปี เหมือน IR1

----------------------------------------------------------------------------

CR1/IR1 ถ้าอยู่ต่อไปเรื่อยๆ จน มีคุณสมบัติที่ครบสามารถสมัคร US Citizen ได้ แต่ไม่ยื่นสมัคร อยากอยู่โดยใช้ green card เป็นใบอนุญาตให้อาศัยอยู่อเมริกาได้อย่างถูกต้องไปเรื่อยๆ ก็ ยื่นเอกสารขอ 10 ปี ใบใหม่ก่อนใบเดิมที่มีจะหมดอายุค่ะ ทั้ง CR1/IR1

หรือ ถ้าอยากยื่นสมัคร US Citizen ก็ยื่นสมัครได้
ระเบียบการสมัคร เหมือนกันทั้ง CR1/IR1

รายละเอียดการสมัคร US Citizen ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง    คลิ๊กอ่าน ข้อมูลจาก uscis.gov (ภาษาอังกฤษ)

เมื่อ มาอาศัยเป็นพลเมืองอเมริกาไม่มีความแตกต่างของCR1/IR1
เพราะอาศัยอยู่ในอเมริกาด้วย green card ทั้งCR1/IR1
จะเรียกรวมกันเมื่อมาอาศัยอยู่ในอเมริกา ว่า เป็น Permanent Resident
คำว่า CR1 เป็นตัวบอกว่า เมื่อถึง 2 ปี จะต้องยื่นเอกสารขอ green card 10ปีนะ แค่นั้นเองค่ะ

------------------------------------------------------------

สำหรับคำว่า CR1/IR1 อย่างไหนดีกว่ากัน
ถ้าตัดเรื่อง ต้องมาจ่ายเงินและเตรียมเอกสาร ตอนปีที่ 2
CR1 /IR1 เข้ามาอเมริกาได้รับสิทธิ์เหมือนกันเลย   ต่างกันตรง CR1/IR1 เป็นชื่อเรียกวีซ่า ที่จะเข้ามาอยู่ในอเมริกา จากการทำวีซ่าถาวรคู่สมรสเหมือนกัน ใช้ชีวิตในอเมริกาด้วย green card เหมือนกัน
จะ ยื่นCR1 หรือ IR1 มาก็ตาม มาถึงอเมริกาสิทธิเท่าเทียมกัน
สิทธิหลักของการครอบครอง green card คือ สามารถอาศัยอยู่ในอเมริกา และทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย  สามารถขอวีซ่าถาวรให้คู่สมรส ลูกโสดได้

เรามาด้วยCR1 ไม่ได้รู้สึกว่า IR1 ดีกว่าจนเราเสียเปรียบ
เพราะเราได้สิ่งที่ดีกว่าที่เราพอใจคือ ไม่ต้องรอ แต่งงาน 2ปี แล้วค่อยยื่นขอวีซ่าเข้ามาอยู่อเมริกา ได้ใช้ชีวิตครอบครัวกับคนที่เราแต่งงานด้วยเร็วกว่าการรอทำ IR1
ใช้ชีวิตปกติทุกอย่างเหมือนคนที่มาด้วย IR1
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เรารู้ว่าเรามีเงื่อนไขคือ ก่อนgreen card 2ปี หมดอายุ เราต้องยื่นเอกสารขอgreen card 10ปี ระหว่างที่ใช้ชีวิตภายใน 2ปี เตรียมเอกสารไว้เรื่อยๆ พอถึงเวลายื่นก็ยื่นไปตามขั้นตอน ไม่ยากเลย
-------------------------------------------------------------



โดยทั่วไปเราไม่ค่อยคำนึงถึงความแตกต่างCR1 / IR1 กันสักเท่าไหร่
ดูแค่ว่ามาแล้วได้ green card เลยเหมือนกัน ได้แบบไหนก็ได้ แล้วแต่อายุการแต่งงาน

เพราะถ้าคิดว่าไม่อยากได้ green card 2ปี อยากได้ green card 10ปีเลย เพื่อความประหยัดและไม่ต้องยุ่งยากเรื่องเอกสารขอgreen card 10ปี ในปีที่2ที่มาอยู่อเมริกา ก็ต้องรอแต่งงานไป 2ปีแล้วค่อยยื่นขอวีซ่าเข้ามาอยู่อเมริกา
โดยทั่วไปหลังแต่งงานไม่มีใครอยากรอ   หลายๆคู่อยากอยู่ด้วยกันเร็วที่สุด ยกเว้นคู่ที่มีความจำเป็นไม่สามารถขอวีซ่าได้ทันทีด้วยหตุผลสถานการณ์ในชีวิต

ส่วนใหญ่หลังจากแต่งงานกับคู่สมรสชาวอเมริกัน เมื่อพร้อมก็ยื่นขอวีซ่าเพื่อเข้ามาอยู่ถาวรเลย โดยยื่นเอกสารขอวีซ่าาถาวรคู่สมรส ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้น ระยะเวลาการจดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสชาวอเมริกัน จะเป็นตัวตัดสิน ว่าเราจะได้วีซ่า CR1 หรือ IR1 / จะได้ green card 2 ปี หรือ 10 ปี

บางคน ตอนยื่นเอกสารขอวีซ่าขั้นตอนแรก หลังแต่งงานไป แล้ว 1 ปี 5 เดือน ในเอกสารตอบรับการยื่นขอวีซ่า เราจะถูกระบุว่าทำวีซ่า CR1 (เพราะแต่งงานยังไม่ถึง 2 ปี )
แต่กว่าจะได้วีซ่า ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เราแต่งงานครบ 2 ปีแล้ว วันที่ได้วีซ่าในพาสปอร์ตก็จะระบุว่าเราได้วีซ่า IR1 ไม่ต้องตกใจ ทำไมเปลี่ยน เราจะเข้าอเมริกาผิดวีซ่าที่เราทำหรือเปล่า

ดีแล้วที่เปลี่ยน  เพราะ จะได้ green card 10 ปีเลย เมื่อเข้ามาถึงอเมริกา เนื่องจากเราแต่งงานครบ2 ปี แล้ว




ข้อมูลจากประสบการณ์ตัวเอง  แนะนำจากความเห็นส่วนตัวรวมกับการหาข้อมูลมาค่ะ  ไม่ใช่ทนาย